ผู้จัดงาน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยที่รับผิดชอบในการสนับสนุนและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมของประเทศ รวมถึงการรักษาความมั่นคงของระบบดิจิทัล กระทรวงได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2559 เป็นส่วนหนึ่งของการพยายามของรัฐไทยในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทุกสาขาอุตสาหกรรม กระทรวงเทคโนโลยีดิจิทัลและสังคมรับผิดชอบในการพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการสนับสนุนให้ธุรกิจ บุคคล และหน่วยงานของรัฐนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ นอกจากนี้ กระทรวงยังรับผิดชอบในการดูแลและกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล เช่นกฎหมายที่เกี่ยวกับความมั่นคงของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยในการใช้งานดิจิทัล
กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
“กระทรวงศึกษาธิการ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คือหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการดูแลและส่งเสริมการศึกษาสูงขั้น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมในประเทศไทย กระทรวงนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2562 เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงความรู้
หน้าที่หลักของกระทรวงฯ รวมถึงการกำหนดนโยบาย กลยุทธ์ และแผนการในด้านการศึกษาสูงขั้น วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ และองค์กรระหว่างประเทศในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังรับผิดชอบในการจัดการและจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการวิจัยและพัฒนา และเป็นผู้กำกับดูแลมาตรฐานคุณภาพของสถาบันการศึกษาสูงขั้นในประเทศไทย
นอกจากนี้ กระทรวงยังมีหน้าที่ส่งเสริมการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเพิ่มความตระหนักในสิ่งที่สำคัญของวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมในการขับเคลื่อนการเติบโตและพัฒนา”
พันธมิตรด้านกลยุทธ์การจัดงาน
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
“หน่วยงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Promotion Agency หรือ DEPA) เป็นหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2016 ภายใต้การดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภารกิจหลักของหน่วยงานนี้คือส่งเสริมการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างการเติบโตและการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ
หน้าที่หลักของหน่วยงานนี้ประกอบด้วยการส่งเสริมความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การให้การสนับสนุนและทุนสำหรับสตาร์ทอัพและ SMEs ด้านดิจิทัล และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและรัฐบาลในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
นอกจากนี้ยังรับผิดชอบในการพัฒนานโยบายและกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการดำเนินงานวิจัยและวิเคราะห์เพื่อตรวจหาแนวโน้มและโอกาสในสายงานดิจิทัล เป้าหมายสุดท้ายของ DEPA คือการก่อตั้งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับนวัตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และส่งเสริมการเติบโตและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในยุคดิจิทัล”
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
“สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมในประเทศไทย หน่วยงานนี้ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2003 และดำเนินงานภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เป้าหมายหลักของ NIA คือการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับความรู้ในประเทศไทย โดยการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ในการปฏิบัติงานนี้ หน่วยงานจะให้บริการต่างๆ เช่น การให้ทุนสำหรับงานวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีการโอนย้ายเทคโนโลยี การจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและธุรกิจบ่มเพาะ
NIA ยังทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม สถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแบ่งปันความรู้ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ผ่านการสนับสนุนนี้ NIA มุ่งมั่นที่จะสร้างนิเวศนวัตกรรมที่หลากหลายและทันสมัย ที่จะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมในประเทศไทย”
Industry Partner
ATxEnterprise
Mark your calendars for May 27–29, 2025, at Singapore Expo! Asia’s leading tech event brings together global innovators, enterprises, and thought leaders to explore cutting-edge technologies and drive digital transformation. Network, collaborate, and shape the future of tech. Register now at https://bit.ly/4km1lP4
หน่วยงานผู้สนับสนุน
สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (aieat)
เป็นสมาคมผู้ส่งเสริมความก้าวหน้าธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย การรับรู้ถึงสินค้าและบริการขององค์กรสมาชิก ส่งเสริมด้านการหาบุคลากรที่มีความสามารถให้แก่องค์กรสมาชิก ความร่วมมือกันระหว่างองค์กรสมาชิกและเป็นตัวแทนของสมาชิกในการประสานงานกับรัฐบาล สมาคมฯ หรือหน่วยงานในระดับภูมิภาคเอเชีย และนานาชาติ และส่งเสริมและสนับสนุนกระบวนการในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ให้แก่องค์กรสมาชิกในด้านต่างๆ
สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)
สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (สขญ.) หรือ BIG DATA INSTITUTE (BDI) เป็นองค์การมหาชน ในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นองค์กรหลักที่ขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ จากเดิมที่เคยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เมื่อปี 2562 ในชื่อว่าสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (สวข.) หรือ GBDi.
สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์
“สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ เป็นองค์กรที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการรักษาความปลอดภัยและการใช้งานที่มีประสิทธิภาพของเทคโนโลยีดังกล่าว
สมาคมนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีไซเบอร์ และสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านไซเบอร์สำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป
นอกจากนี้ สมาคมยังมุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานทางด้านไซเบอร์ในอุตสาหกรรมและธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและทนทานให้กับระบบด้านไซเบอร์ขององค์กรและชุมชนทั่วไป ด้วยเหตุนี้ สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์เป็นองค์กรที่สำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีไซเบอร์ในประเทศไทยและทั่วโลก”
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ETDA ตั้งขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป จากสังคมแอนะล็อก (Analog) สู่สังคมดิจิทัล (Digital) ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
การพูดคุยก้าวผ่านจากการต้องพบหน้ากันเจอะเจอกัน เป็นการแช็ต (chat) หรือวิดีโอคอลล์ (video call) บนออนไลน์ คนจากซีกโลกหนึ่งสามารถพูดคุยกับคนอีกซีกโลกหนึ่งได้เพียงเสี้ยววินาที การติดต่องาน ส่งเอกสาร ไม่ต้องพรินต์ ไม่ต้องไปยื่นเอกสารที่หน่วยงาน เพียงส่งผ่านระบบ โดยพิสูจน์และยืนยันตัวตนผู้ส่งในรูปแบบต่าง ๆ การประชุมสามารถทำผ่านระบบ e-Meeting หรือการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องเปลืองพื้นที่ในการรวมคนจำนวนมาก การค้าขายที่เปลี่ยนผ่านจากการเดินไปซื้อของที่ร้านค้าสู่การซื้อขายสินค้าบนหน้าจอ โดยสามารถจ่ายเงินผ่านทางออนไลน์ได้เช่นกัน
โครงสร้างการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องมีหน่วยงานหรือองค์กรที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลให้บริการในเรื่องเหล่านี้ บนโลกดิจิทัล มีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือและมั่นคงปลอดภัย หรือมี Digital Governance ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจและสังคมเติบโตและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกได้
นั่นคือที่มาของ ETDA องค์กรที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2554 ให้เป็นองค์กรที่มีหน้าที่สำคัญในการ ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนา ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Transactions) หรือ ธุรกรรมออนไลน์ ภายใต้ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) และ พระราชบัญญัติสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ ETDA ให้ความสำคัญกับ 3 ภาคส่วนใหญ่ ๆ คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งทั้ง 3 ส่วนต้องมีการทำธุรกรรมร่วมกัน คือ
📍 G2X (จีทูเอ็กซ์) คือ รัฐทำกับรัฐ รัฐทำกับธุรกิจ รัฐทำกับประชาชน
📍 B2X (บีทูเอ็กซ์) คือ ธุรกิจทำธุรกิจกันเอง ธุรกิจค้าขายกับรัฐ ธุรกิจค้าขายกับประชาชน
📍 C2C (ซีทูซี) หรือ Citizen to Citizen ที่ติดต่อกัน เช่น ผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม
การทำธุรกรรมเหล่านี้ บางส่วนต้องมาใช้บริการทางออนไลน์ ETDA จึงดูในมิติของธุรกรรมที่ครอบคลุมในมิติของรัฐ-เอกชน-ประชาชน ไม่ว่าจะเป็น บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) หรือแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เพราะการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ อาจมีความเสี่ยง การฉ้อโกง การรั่วไหลของข้อมูล การระรานทางไซเบอร์ (Cyberbullying) ฯลฯ ดังนั้นบนโลกดิจิทัลจึงต้องมีทั้งการส่งเสริมและกำกับดูแลอย่างมี Digital Governance หรือธรรมาภิบาล
MyIoTA
Registered in the later part of 2016, MyIoTA or Malaysia Internet-of-Things Association is founded by a group of individuals & companies in the private sector, passionate & involved in IoT value chain in Malaysia & beyond. With the global trend of 50B* devices(things) connected by 2020, IoT will be an important catalyst in transforming the digital economy landscape. MyIoTA works together with industry players to develop a thriving IoT eco-system for companies adopting & providing IoT solutions & services
OUR VISION
To Champion & realize the full potential of IoT as part of Malaysia’s digital economy , empowering towards the Fourth Industrial Revolution.
- To promote investments, use cases & applications of IoT
- To be the forum for IoT entrepreneurs, researchers, CIOs & policy makers for sharing ideas & expertise in latest IoT technologies
- To harmonize & promote partnerships in software, hardware & platform services
- To promote local IoT companies at the global level & increase their competitiveness
- To help industries in their digital transformation journey using IoT
สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม (สรอ.)
สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม (สรอ.) ก่อตั้งขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2541 ดำเนินงานภายใต้อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิในด้านการให้บริการรับรองตามมาตรฐานไอเอสโอ และมาตรฐานระบบอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและคุณภาพของอุตสาหกรรม รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถด้านการรับรองของประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ
สรอ.มีความมุ่งมั่นต่อความเป็นกลาง และไม่เลือกปฏิบัติในการให้บริการด้านการตรวจและการรับรอง โดยดำเนินงานตามมาตรฐานการทำงานตามหลักเกณฑ์สากล ISO/IEC 17020 ISO/IEC 17021-1 ISO 50003 และ ISO 14065
นอกจากนี้ สรอ.ยังให้ความสำคัญกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้กำหนดนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อคุ้มครองข้อมูลตามกฎหมายด้วย
MDEC
Malaysia Digital Economy Corporation (MDEC), a government agency under the purview of the Ministry of Digital, was established in 1996 to lead Malaysia’s digital economy. Beginning with the implementation of the MSC Malaysia initiative, we have since then catalysed digital transformation and growth all over the nation. By offering greater incentives and governance for growth and re-investment, we aspire to bolster Malaysia’s status as the digital hub of ASEAN, opening new doors and driving shared prosperity for all Malaysians.
Discover how MDEC is empowering the nation by upskilling Malaysians to be digitally savvy, providing digitalisation support to businesses, supporting tech companies in expanding internationally and driving investment in the digital economy.
สมาคมเมตาเวิร์สแห่งประเทศไทย
จัดตั้งขึ้นเพื่อ เป็นจุดศูนย์รวมMetaverse ที่พร้อมจะพัฒนา Metaverse เเละเราพร้อมที่จะให้บุคคลที่สนใจเกี่ยวกับ Metaverse ได้เข้ามาเรียนรู้ได้และพัฒนาตัวเอง
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค มุ่งเน้นการทำงานที่สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ผลักดันผลงานวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างให้เกิดระบบนิเวศของการใช้งานเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูง ผ่านโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ และ เครือข่ายพันธมิตร ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อรองรับประเทศไทย 4.0 สำหรับการเป็นฐานรากสำคัญด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูงของประเทศไทย เนคเทคจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ทิศทางการดำเนินงาน
NCSA
พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดนโยบาย มาตรการ แนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ ในการป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ มิให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ รวมทั้งให้ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบงานตามพระราชบัญญัติ และประสานการปฏิบัติงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าในสถานการณ์ทั่วไปหรือสถานการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างร้ายแรง อันจะทำให้การป้องกันและการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านความปลอดภัยของระบบ การจัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นประเด็นที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญ การโจมตีทางไซเบอร์ เช่น การแฮ็กข้อมูล การปล่อยมัลแวร์ และการโจมตีแบบ Distributed Denial of Service (DDoS) ส่งผลกระทบต่อทั้งข้อมูลผู้ใช้และความเชื่อมั่นในบริการ การนำระบบการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) และการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) มาใช้ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
NSTDA
สวทช. มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองบนเวทีเศรษฐกิจระดับโลก โดยการนำความสามารถอันเหนือชั้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยให้ภาคการ เกษตรและภาคอุตสาหกรรมสามารถดำเนินงานได้ดี มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่ง สวทช. ได้ดำเนินงานผ่านการทำงานร่วมกันของศูนย์ทั้ง 5 ศูนย์แห่งชาติ ได้แก่
- ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC)
มุ่งพัฒนางานด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
- ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
มุ่งพัฒนางานด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวัสดุต่างๆ
- ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)
มุ่งพัฒนางานด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
- ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC)
มุ่งพัฒนางานด้านนาโนเทคโนโลยี
- ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC)
มุ่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานของประเทศ
วิสัยทัศน์
สวทช. เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของรัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์สำคัญ นำสู่การพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด
พันธกิจ
สวทช. มุ่งสร้างเสริมการวิจัย พัฒนา ออกแบบ และวิศวกรรม (Research Development Design and Engineering) จนสามารถถ่ายทอดไปสู่การใช้ประโยชน์ (Technology Transfer) พร้อมส่งเสริมด้านการพัฒนากำลังคน (Human Resource Development) และโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้าน ว และท ที่จำเป็น เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยจัดให้มีระบบบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานทุกส่วน
ค่านิยมหลัก สวทช.
Nation First
การคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักไม่ยึดติดกับอัตตาของตัวเองเห็นถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมมีความเสียสละ
เป็นเรื่องที่สำคัญมากเวลาพิจารณาเรื่องใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ การเดินหน้าโครงการต่างๆ ต้องนึกถึงประเทศเป็นหลัก
Science & Technology Excellence
การมุ่งเน้นในการสร้างความเป็นเลิศในสิ่งที่ทำ รับผิดชอบศึกษาค้นคว้าเพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ
เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย
เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park Thailand) จัดตั้งตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2540 เพื่อเสริมสร้างอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้เป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของชาติ โดยมีเป้าหมาย
- รองรับการเปิดเสรีการค้าโลกทางด้านไอที
- สนับสนุนผู้ประกอบการทางด้านการผลิตซอฟต์แวร์ของไทย และอำนวยความสะดวกด้านอุปกรณ์สิ่งแวดล้อม
- ทำให้เกิดกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรทางด้านซอฟต์แวร์และมัลติมีเดีย
สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ TPA เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของสมาชิกและเผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ, ส่งเสริมด้านการศึกษา และพัฒนาบุคลากร เทคโนโลยี โดยการเปิดอบรมสัมมนา, การเรียนการสอน, การให้การบริการคำปรึกษาในสาขาต่างๆ, การรับรองความรู้และความสามารถของบุคลากร, การถ่ายทอดและการวิจัยเทคโนโลยี และภาษาต่างๆ รวมทั้งดำเนินกิจการโรงเรียน, วิทยาลัย, มหาวิทยาลัย, สถาบันการศึกษา, หน่วยงาน, องค์กรหรือมูลนิธิ ด้านเทคโนโลยีและวิชาการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินกิจการรวบรวม, เรียบเรียง, แปล และพิมพ์หนังสือทางวิชาการ, ออกวารสารของสมาคมและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี รวมทั้งเผยแพร่ให้แก่สมาชิก และประชาชนทั่วไป ดำเนินกิจการบริการด้านอุตสาหกรรมต่างๆ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งจัดตั้งศูนย์สอบเทียบเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม, ศูนย์ทดสอบ และให้บริการคำปรึกษาด้านอุตสาหกรรม และการบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ร่วมมือกับสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งการลงทุนหรือร่วมทุนดำเนินกิจการที่มีวัตถุประสงค์ในทำนองเดียวกับสมาคม ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
สมาคมฟินเทคประเทศไทย
สมาคมที่มีพันธกิจในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงินในประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรม Fintech
สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย
นโยบาย
Community
สร้างเครือข่ายของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ได้รู้จัก ช่วยเหลือ และแบ่งปันความรู้กัน ช่วยเหลือนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากการถูกผู้ว่าจ้างเอาเปรียบ และช่วยเหลือผู้ว่าจ้างจากการโดนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทิ้งงาน เป็นพื้นที่ให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้แสดงศักยภาพ หรือสร้างความร่วมมือ สนับสนุนชุมชนต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรมเพื่อนักพัฒนาซอฟต์แวร์
Connection
ดำเนินการร่วมมือกับองค์การกุศล เพื่อการกุศลและองค์กรสาธารณประโยชน์เพื่อสาธารณประโยชน์ ส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปในสาขาอาชีพอื่นมีความสนใจเรียนรู้ด้านการโค้ดดิ้งพื้นฐาน
Contribution
พัฒนาทักษะด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Technical Skill) และ ทักษะที่เกี่ยวข้องกับคน (Soft Skill) ให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นองค์กรที่รับให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่อหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
Communication
ยกระดับภาพลักษณ์และสร้างความเข้าใจที่ดีต่อสายอาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพิ่มช่องทางการเข้าถึงการสื่อสารจากสมาคม
สถาบันไทย-เยอรมัน
สถาบันไทย-เยอรมัน จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถาบัน เป็นหน่วยงานที่มี ประสิทธิภาพในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงสู่ภาค อุตสาหกรรมไทยการดำเนินงานของสถาบันฯ มีลักษณะการบริหารงานเป็นอิสระ และอยู่นอกระบบการศึกษาภายใต้การดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรมโดยมีอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิมารองรับการดำเนินงาน
สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย
สืบเนื่องจากการการประชุม กลุ่ม E-Marketplace ในงาน Thailand ICT Alliance เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2548 ในการประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวความคิดในการรวมตัวของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย
และหลังจากการประชุมดังกล่าวเสร็จสิ้นลง กลุ่มผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้มีการประชุมต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้เกิดการรวมตัวของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และได้จัดตั้งเป็นชมรมขึ้นในนาม “ชมรมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย” (Thai e-Commerce Club)
ในช่วงเริ่มแรกของการจัดตั้งชมรม ที่ประชุมกลุ่มย่อยเห็นควรจัดให้มีกิจกรรมในการเปิดตัวชมรม และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมกันมากขึ้น จึงให้มีการจัดงานเสวนาระดมสมองเกี่ยวกับ e-Commerce คือ การเสวนาและระดมสมอง “ปัญหาและทิศทางของ e-Commerce เมืองไทย” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2548 ณ ศูนย์ศึกษาวิภาวดี มหาวิทยาลัยรังสิต อาคาร TST Tower
ภายในงานวันดังกล่าว มีทั้งผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กว่า 50 ราย เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งมีทั้งการเสวนา และพูดคุยปัญหาของ E-Commerce เมืองไทยในระดับกลุ่มย่อยๆ ได้แก่ กลุ่ม e-marketplace, กลุ่ม e-travel และกลุ่ม e-payment พร้อมทั้งเรียนเชิญผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันงาน ร่วมกันจัดตั้งเป็นคณะกรรมการ เพื่อผลักดันกิจกรรมต่างๆ
ผลจากงานเสวนาครั้งนั้น ชมรมได้เลือกตั้งคณะกรรมการรวม 15 ท่าน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักวิชาการ
นอกจากนี้ ทางชมรมได้รับการสนับสนุนและการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ คือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดยสนับสนุน การสร้างกิจกรรมต่างๆ ให้แก่สมาชิก ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการประสานงาน และจัดการประชุมให้แก่ชมรม
คณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้ร่วมกันปรึกษาหารือ และวางกรอบการทำงานของชมรมอย่างต่อเนื่องโดยมีจุดมุ่งหมายหลัก เพื่อให้ชมรมกลายเป็นศูนย์กลางของกลุ่มผู้ประกอบการ e-Commerce ไทย รวมถึงผลักดันรูปแบบองค์กรจนกลายเป็นสมาคมเฉกเช่นในปัจจุบัน
สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
“สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยที่รับผิดชอบในการพัฒนาและประสานงานนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล สร้างขึ้นในปี 2015 เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเติบโตเศรษฐกิจและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนไทย โดย NDESC ร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลต่างๆ องค์กรภาคเอกชนและองค์กรสังคมพลเมืองต่างๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสายตาสู่ดิจิทัล การเพิ่มความรู้ความสามารถด้านดิจิทัลและการเริ่มกิจการดิจิทัลในประเทศไทย โดยเป้าหมายหลักของ NDESC คือการส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัล เพิ่มความรู้ด้านดิจิทัล และให้คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงประโยชน์ของเศรษฐกิจดิจิทัล”